Not all leathers are created equal.
หนังวัวแท้?
กระเป๋าหนัง “แท้” ที่ขายกันในเนท ทำไมมันมีตั้งแต่ราคา 850, 2 พันปลายๆ, 5-6 พัน, ไปถึงเกือบหมื่นได้นะ?
เอ้ะ มันหนังแท้จริงเหรอ?
Blog นี้เราขอแนะนำ 5 วิธีง่ายๆในการดูว่ากระเป๋าใบโปรดของคุณเป็นหนังแท้จริงๆหรือหนังเกือบๆจะแท้ปลอมตัวมาค่ะ
1. กลิ่น
กลิ่นหนังคือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังแท้ หนังแท้แต่ละชนิดจะมี Profile กลิ่นที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นกลิ่นที่มาจากกระบวนการฟอกหนังนั่นเอง กลิ่นของหนังวัวกับหนังแกะก็ไม่เหมือนกันนะคะ
ส่วนหนังเทียมเกรดถูกๆพวก PVC จะมีกลิ่นพลาสติกที่ค่อนข้างแรง คล้ายๆกับกลิ่นท่อประปาสีฟ้า แต่หนังเทียมประเภท PU ก็มักจะไม่ค่อยมีกลิ่น เป็นพลาสติกประเภท Thermoset ที่เซทตัวแล้วไม่มีปฏิกิริยาเคมีปล่อยกลิ่นระเหยออกมาอีก
2. เผาไฟ
อาจจะเคยเห็นบางคนโชว์เผาไฟอารมณ์คล้ายๆมายากล เอาด้านหลังของหนังวิ่งผ่านไฟฟิ้ววว
ท้าวความถึงหนังชนิดนึงที่นิยมทำกระเป๋า Hermes ก้อปราคาเบาๆกันก่อน Bonded Leather และ Bicast Leather เป็นหนังกึ่งๆเสือไบ คือเอาขี้หนัง, เศษผงหนังแท้, หรือหนังกลับเกรดล่างๆมาอัดกาวแล้วเคลือบผิวหน้าสวยๆด้วย PU Plastic ให้ฟีลว่าเป็นหนังวัวแท้นะจ้ะ หนังกลุ่มนี้จะพบมากในเข็มขัดทั้งหลาย, กระเป๋าสตางค์, และงานก้อปที่เรียกชื่อใหม่ว่า Inspired Bag ทั้งหลาย
มายากลเผาไฟหนังชนิดนี้ก็เลยจะเผาโชว์ด้านหลังที่เป็นขี้หนัง ไม่กล้าเผาด้านหน้ากันจริงๆเพราะเดี๋ยวความจะแตก PU ละลายหายวับกันไป
รูปนี้คือการเปรียบเทียบการเสียดสีของหนังแท้และหนังเทียม ผิวพลาสติกของหนังเทียมจะขาดเป็นแผ่น Film เห็นเป็นชั้นๆ Layer
ถ้าได้ลองเผาไฟหนังแท้ด้านหน้า อย่างแรกเลยก็จะได้กลิ่นเนื้อย่าง Yakiniku หอมอร่อย ตามด้วยหนังที่ไหม้ไฟดำๆเกรียมๆ แต่จะไม่ละลายหายวับไปเหมือนหนังเทียมค่ะ
3. Back ด้านหลัง
ด้านหลังของหนังแท้จะมี 2 แบบตามกระบวนการฟอกย้อมสีหนัง จะมีแบบผิวขุยๆของหนังที่ไม่ได้ผ่านการ Embossed หรืออัดลายแต่งผิว กับผิวแบบกระด้างๆแบนๆ บางทีก็มีลายตาข่าย ซึ่งเป็นปกติของหนังแท้ที่ผ่านการอัดลายแต่งผิวมาค่ะ
ส่วนหนังเทียมก็จะมี Back หลายแบบ เช่นผ้าตาข่ายที่มักพบในหนังเทียมทำโซฟา, ผ้าใยที่ผลิตมาสำหรับการทากาวแปะโดยเฉพาะ, หรือขี้หนังอัดของ Bonded Leather
เราอาจจะพอได้เห็น Back ของหนังในชิ้นส่วนกระเป๋าพวกหูหิ้ว, Tag ห้อยกระเป๋า, ป้าย Tag ด้านในกระเป๋า ลองพลิกๆแง้มๆดูกันได้ค่ะ
4. ขอบหนัง
โครงสร้างของหนังแท้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา และยังไม่มีโรงงานหนังเทียมเลียนแบบได้ (ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่รู้ว่าเค้าจะทำให้เหมือนทำไมเพราะเค้าไม่เอาหนังเทียมมาหลอกขายกันใน IG ว่าหนังแท้ใบละ 850 คร้าา)
ูรูปเปรียบเทียบขอบหนังก็จะเห็นชัดเจนค่ะ หนังวัวแท้จะเป็นเส้นใย Fiber ที่ถักทอกันตามธรรมชาติ ต่างกับหนังเที้ยมเทียม และหนังเสือไบที่ชอบเอามาเนียนๆกัน โครงสร้างของหนัง Bonded Leather จะแยกชั้นชัดเจนระหว่างชั้นผิวพลาสติกและชั้นขี้หนังอัดกาว
5. ผิวหน้าหนัง
ข้อแตกต่างอีกหนึ่งอย่างที่ชัดเจนระหว่างหนังแท้และหนังเทียมคือ ผิวหน้าหนัง
วัวแกะแพะตามธรรมชาติไม่ได้ทาครีมบำรุงผิวก่อนนอน ก็จะมีริ้วรอยต่างๆตามธรรมชาติและความอ้วนท้วนของมัน (เหมือนพุงแตกลาย) พอเอามาทำเป็นหนังแล้วก็จะยังเห็นลวดลายต่างๆที่ไม่ได้เรียบเสมอกันทั้งหมด หรือ Grain หนังที่แตกต่างกันไปในหนังแผ่นเดียว
แต่หนังเทียมรีดออกมาเป็นม้วนๆ ก็จะมีผิวที่เรียบเสมอกันไปหมด บางครั้งก็อัดลายให้เหมือนหนังแท้แต่ลวดลายที่อัดจากลูกกลิ้งพวกนั้นก็จะซ้ำๆและสม่ำเสมอกันทั้งหมด ยิ่งพอเอามาทำกระเป๋าแล้วจะเห็นชัดเจนถึงความเนียนสม่ำเสมอเท่ากันทั้งใบของหนังเทียม
ปล. แบรนด์เนมดังๆหลายๆรุ่นไม่ใช่หนังแท้นะคะ (โดยเฉพาะพวกที่หูหนังสีสวยๆผสมผ้าทอลาย แถมเดี๋ยวนี้มา Made in Vietnam ซะเพียบ แต่เค้าก็บอกเอาไว้ใน Spec/Tag ด้านในนะ) ลองพลิกดูดีๆแล้วอย่าตกใจนะคะว่าซื้อมาเป็นหมื่น ไหงเป็นหนังเทียมไปได้
ปล 2. กระเป๋าหนังแท้ใบละไม่ถึง 3 พันนี่ คหสต เราว่ามักจะเป็นพวก Bonded Leather ค่ะ บางร้านก็โดนผู้ผลิตหลอกมาก่อน ก็น่าสงสารเค้าเนอะ
ปล 3. ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Bonded Leather ได้ที่ https://en.m.wikipedia.org/wiki/Bonded_leather